in NIO, รถยนต์, รถใหม่ในต่างประเทศ
NIO ES8 เอสยูวีไฟฟ้าสุดหรู 6 และ 7 ที่นั่ง เจน ฯ ที่ 3 มีให้เลือกทั้งแบบซิ้อขาด และเช่าแบตเตอรี่ (BaaS) ชาร์จไฟวิ่งไกลสุด 635 กม. เปิดราคาเริ่มที่ 1.33 ล้านบาท ในจีน
โดยPhalath159 ผู้อ่าน
ที่ภายในงาน Nio Day 2025 ค่ายรถหรูจากประเทศจีนอย่าง NIO ได้เปิดตัว NIO ES8 เอสยูวีไฟฟ้า 100% ขนาดใหญ่เจเนอเรชันที่ 3 โดยมีทั้งรุ่น 6 และ 7 ที่นั่ง พร้อมตัวเลือกราคาทั้งแบบซื้อขาด และเช่าแบตเตอรี่ (BaaS) ชาร์จไฟวิ่งไกลสุด 635 กม. โดยมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย เปิดราคาจำหน่าบไว้ดังนี้

ราคาจำหน่าย NIO ES8 2026 ในประเทศจีน
- รุ่น 6 ที่นั่ง Executive Luxury ราคา 298,800 หยวน ประมาณ 1.33 ล้านบาท (เช่าแบตเตอรี่ BaaS) ส่วนถ้าแบบซื้อขาดจะมีราคาอยู่ที่ 406,800 หยวน (ราว ๆ 1.8 ล้านบาท)
- รุ่น 6 ที่นั่ง Executive Signature ราคา 338,800 หยวน ประมาณ 1.5 ล้านบาท (เช่าแบตเตอรี่ BaaS) ส่วนถ้าแบบซื้อขาดจะมีราคาอยู่ที่ 446,800 หยวน (ราว ๆ 1.97 ล้านบาท)
- รุ่น 7 ที่นั่ง Executive Luxury ราคา 298,800 หยวน ประมาณ 1.33 ล้านบาท(เช่าแบตเตอรี่ BaaS) ส่วนถ้าแบบซื้อขาดจะมีราคาอยู่ที่ 406,800 หยวน (ราว ๆ 1.8 ล้านบาท)



ในด้านงานดีไซน์ของ NIO ES8 เจน ฯ ที่ 3 นี้จะมากับรูปโฉมใหม่ที่มีความโฉบเฉี่ยวมากกว่าเดิม เริ่มจากการออกแบบ X-Bar ด้านหน้าใหม่ สอดรับเข้สชุดกับฝากระะโปรงหน้าแบบ Shark Nose ที่ยกสูง

มาพร้อมชุดไฟหน้าแบบแยกส่วน โดยจะมากับไฟ DRL LED ใหม่แบบ Diamond Cut ที่มาในแบบเรียวแหลม รวมถึงออกแบบกรอบชุดไฟส่องสว่างใหม่มาในทรงสี่เหลี่ยมคางหมูแนวตั้ง อีกทั้งในส่วนด้านหน้ายังเพิ่มดีเทลให้มีเหลี่ยมสันมากขึ้น เติมความหรูหราด้วยเส้นโครเมียมที่คาดอยู่บริเวณช่องดักอากาศทรงเหลี่ยม



ในส่วนด้านข้างตัวรถยังคงเน้นความเรียบหรูดูแพง มือเปิดประตูเป็นแบบซ่อนที่ราบไปกับตัวถัง มาพร้อมล้ออัลลอยปัดเงาขนาดใหญ่ 21 นิ้ว

ด้านท้ายยังมากับชุดไฟท้ายที่เป็นเส้นวางพสาดเต็มพื้นที่ เสริมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลังคาสีดำ และตกแต่งด้วยเส้นโครเมียมรอบคันที่ชายด้านล่าง

ในด้านขนาดมิติตัวรถจะมีความยาว 5,280 มม. กว้าง 2,010 มม. สูง 1,800 มม. และมีระยะฐานล้ออยู่ที่ 3,130 มม.






ภายในห้องโดยสารของ NIO ES8 เอสยูวีไฟฟ้า เจน ฯ ที่ 3 ก็จะมากับงานออกแบบใหม่เกือบทั้งหมด ตกแต่งด้วยวัสดุไม้จริง, โลหะขัดเงา และงานปักกว่า 120,000 ฝีเข็ม มาพร้อมเฉดสีภายในให้เลือก 4 โทนสี ได้แก่ สีน้ำเงิน Gangri Blue, สีน้ำตาล Pamir Brown, สีแดง Sappanwood Red และสีเบจ Warm Gravel พร้อมตัวเลือกทั้งแบบ 6 ที่นั่ง (2+2+2) และ 7 ที่นั่ง (2+2+3)




ตัวเบาะที่นั่งคู่หน้าเป็นแบบ Zero -Gravity ปรับไฟฟ้า 20 ทิศทาง มาพร้อมที่พักขาที่มีความยาว 325 มม.เบาะที่นั่งแถวที่ 2 ก็มาในแบบ Zero -Gravity โดยฝั่งด้านขวาจะได้รับโต๊ะพับเก็บได้ที่อยู่ด้านหลังเบาะด้านหน้า ส่วนเบาะแถวที่ 3 ก็ปรับพับด้วยไฟฟ้า โดยสามารถเลื่อนเดินหน้าได้มากถึง 130 มม. และปรับเอนได้มากถึง 130 องศา






ในส่วนของแผงแดชบอร์ดโดดเด่นด้วยจอแสดงผลแบบพาโนรามา Skyline บางเฉียบชั้น มาพร้อมหน้าจอสัมผัสกลางแนวนอนที่ออกแบบใหม่โดยมีขนาด 15.6 นิ้ว ที่มาพร้อมระบบช่วยขับขี่ Nomi และยังได้รับหน้าจอ AR HUD ขนาด 38 นิ้ว ที่สะท้อนข้อมูลการขับขี่ไปยังกระจกบังลมหน้า อีกทั้งยังได้รัลพวงมาลัยมัติฟังก์ชันแบบสามก้านทรงใหม่



นอกจากนั้นในส่วนด้านหลังยังได้รับจอแสดงผลแบบพับลงขนาดใหญ่ 21.4 นิ้ว ที่รองรับระบบเสียง Dolby Vision และ HDR Vivid ซึ่งจะเปลี่ยนห้องโดยสารให้กลายเป็นพื้นที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์



ขณะที่ด้านชุดอุปกรณ์ภายในจะได้รับกระจกหรี่แสงอัจฉริยะที่ด้านข้างขนาด 1.7 ตร.ม. โดยจะขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี EC รุ่นใหม่ ซึ่งประกอบด้วยโซนอิสระ 4 โซนพร้อมระดับปรับได้ 3 ระดับ ช่วยให้คุณควบคุมแสงและความเป็นส่วนตัวได้อย่างสมบูรณ์, ระบบปรับอากาศแบบ 5 โซน



ตู้เย็นลิ้นชักไฟฟ้าขนาดความจุ 8.8 ลิตร ปรับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -2°C ถึง 55°C, ระบบเครื่องเสียง Tianqin ที่ให้กำลังขับ 2,600W มาพร้อมลำโพง 27 ตัว และหลังคากระจกที่ขนาดกว้าง 4.7 ตรารางเมตร




ส่วนพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่มีความจุมากถึง 547 ลิตร เมื่อพับเบาะลงจะขยายพื้นที่ได้มากถง 3,230 ลิตา มาพร้อมช่องเก็บขิงใตค้พื้นรถที่มีขนาดความจุ 132 ลิตร รวมทั้งยังมาพร้อม Frunk ที่มีความจุมากถึง 777 ลิตร



ด้านระบบความความปลอดภัยจะมากับถุงลมนิรภัย 11 จุด ระบบตรวจสอบการชน 72 จุด และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ 65 ระบบ โดยตัวจะขับเคลื่อนด้วยชิป Shenji NX9031 ที่นีโอพัฒนาขึ้นเอง ทำงานร่วมกับโปรเซสเซอร์ Qualcomm 8295 ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งานระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง

ส่วนขุมพลังขับเคลื่อนจะเป็นแบบไฟฟ้า 100% โดยจะได้รับกาารติดตั้งมอเตอรืไฟฟ้าคู่ ที่ให้กำลัง 520 kW / 697 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตันเมตร ตัวรถสามรถทำความเร็วจาก 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 3.97 วินาที


มาพร้อมแพลตฟอร์มแรงดันสูง 900V จับคู่กับชุดแบตเตอรี่ที่มีขนาดความจุ 102 kWh ให้ระยะทางวิ่ง 635 กม. (CLTC) โดยทางผู้ผลิตเผยว่าจะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 16.6 kWh /100 กม.



ส่วนระบบช่วงล่างจะเป็นแบบถุงลมแบบสองห้องปรับอัตโนมัติ ที่มีระยะยุบตัว 100 มม. และโช้คอัพ CDC ด้วยมุมเลี้ยวล้อหน้า 41 องศา ทำให้ ES8 มีรัศมีวงเลี้ยวที่ 5.7 เมตร มาพร้อมโหมดการขับขี่อัจฉริยะบนพื้นผิวเปียกแบบใหม่ช่วยเพิ่มเสถียรภาพบนถนนลื่น






สำหรับ NIO ES8 เอสยูวีไฟฟ้า เจน ฯ ที่ 3 ที่เปิดตัววางจำหน่ายในประเทศจีนจะมีเฉดสีตัวถังให้เลือก 6 สี ได้แก่ สีดำ Arctic Black, สีขาว Cloud White, สีเขียยว Nebula Green, สีน้ำเงิน Southern Star, สีเทา Stellar Gray และสีทอง Sunlight Gold



โดยทางผู้ผลิตตั้งเป้าจะผลิต NIO ES8 ให้ได้ 40,000 คันภายในสิ้นปีนี้ โดยจะเริ่มส่งมอบได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป